นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า "ว่าวดุ๊ยดุ่ยเป็นเหมือนเสียงสวรรค์ ช่วงฤดูหนาว กลางคืนเวลานอนและได้ยินเสียงดุ๊ยดุ่ยมันทำให้เรารู้สึกนอนสบายมาก แต่เวลาช่วงกลางวันเราก็จะเห็นตัวว่าวลอยอยู่ในอากาศหางยาว ๆ ปลิวไสวไปมันทำให้เรารู้สึกเพลิดเพลินเวลามอง รู้สึกมีความภาคภูมิใจที่อยู่กับเรามายาวนาน ต้องขอขอบคุณคนรุ่นใหม่ที่รวมตัวกันเป็นชมรมเพื่อช่วยกันอนุรักษ์ และฟื้นฟูการเล่นว่าวดุ๊ยดุ่ยในปัจจุบัน"
นางสาวปรารถนา มงคลธวัช วัฒนธรรมจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า "เราควรส่งเสริมกิจกรรมว่าวดุ๊ยดุ่ยจากระดับตำบล ให้เป็นระดับจังหวัด และระดับประเทศต่อไป ก็จะทำให้คนรู้จักมากขึ้น และในฐานะวัฒนธรรมจังหวัด จะเสนอให้เป็นโครงการระดับจังหวัดต่อไป"
นายประมวล บุญทีฑ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 1 กล่าวว่า "ผมรู้สึกภูมิใจที่เห็นภาคส่วนต่าง ๆ ให้ความสำคัญ และรักษาวัฒนธรรมอันดีงามนี้ไว้ ซึ่งโรงเรียนสามารถนำไปกำหนดเป็นหลักสูตรของสถานศึกษาได้นะครับ เพื่อจรรโลงไว้อันศิลปะวัฒนธรรมอันดีงามของท้องที่นั้นไว้"
ท่องเที่ยวจังหวัดจันทบุรี
สาธิตการทำเสียงอูดว่าวดุ๊ยดุ่ย
สำหรับการแข่งขันว่าวดุ๊ยดุ่ยจะจัดขึ้นในวันที่ 12 - 13 ธันวาคม 2563 ณ สนามบ้านดาวเรืองพลับพลา ต.พลับพลา อ.เมือง จ.จันทบุรี จัดโดยชมรมรักษ์เสียงอูดว่าวดุ๊ยดุ่ย